เช็กลิสต์ 32 คำถามที่ต้องเคลียร์ก่อนตกลงเริ่มงาน

How to?September 27, 2023 16:37

 

“งาน เงิน หัวหน้า วัฒนธรรมและเป้าหมาย”
5 เรื่องที่ต้องเคลียร์ตัวเองให้ชัดด้วยเช็กลิสต์ 32 คำถามก่อนตกลงเริ่มงาน

ไม่ว่าจะทำเรซูเม่หรือเขียน Cover letter ได้ดีขนาดไหนแม้กระทั่งตอบคำถามสัมภาษณ์งานแต่ละข้อได้อย่างไร้ที่ติ รวมถึงตกลงเรื่องเงินเดือนและผลตอบแทนไว้เรียบร้อยแล้วก็ยังไม่ถือเป็นอัน “สิ้นสุด” กระบวนการสมัครงาน เพราะยังเหลืออีก 1 ขั้นตอนก่อนที่เราจะกลายเป็นพนักงานใหม่ซึ่งก็คือการ “เคลียร์ข้อสงสัย” ทั้งหมดเพื่อยืนยันว่านี่คืองานที่ใช่สำหรับเราจริงๆ

รายงานจากปี 2022 เกี่ยวกับประสบการณ์ Shift Shock เมื่อคนทำงานจำนวนมากปรับตัวเข้ากับที่ทำงานใหม่ไม่ได้เนื่องจากต้องเรียนรู้วัฒนธรรม รูปแบบงาน และสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย โดยทั่วไปสาเหตุที่ทำให้หลายคนตัดสินใจไม่ไปต่อและต้องการลาออกเกิดจากการที่พบเจอกับเหตุการณ์ที่สวนทางกับความคาดหวัง ไม่ว่าจะเป็น เรื่องงาน ผลตอบแทน เป้าหมาย แม้แต่วัฒนธรรมดังนั้นสิ่งสำคัญคือการเคลียร์ปัจจัยเหล่านี้ให้ชัดตั้งแต่ต้นด้วยการถามตัวเองใน 5 ประเด็นต่อไปนี้

ถามเกี่ยวกับเนื้องาน

  1. เราเข้าใจดีแค่ไหนเกี่ยวกับงานที่ต้องทำในแต่ละวัน
  2. ตำแหน่งงานสอดคล้องกับหน้าที่และเป้าหมายส่วนตัวของเราหรือไม่
  3. วัดผล “ความสำเร็จ” และประเมินคุณภาพจากอะไร
  4. กรอบระยะเวลาในการทำงานเป็นแบบไหน
  5. เรามีแนวโน้มจะได้ “ทำงานล่วงเวลา” พร้อมรับค่าตอบแทนที่เหมาะสมไหม
  6. นโยบายการทำงานบริษัทนี้เป็นอย่างไร ตอบโจทย์การใช้ชีวิตหรือเปล่า

อย่างน้อยที่สุดคือต้องแน่ใจว่าตัวเรากับนายจ้างมองตรงกันในเรื่องของเป้าหมายและวิธีการทำงาน หากยังไม่แน่ใจลองนำรายละเอียด Job Description มาเทียบกับสิ่งที่ได้คุยกันระหว่างการสัมภาษณ์ หากพบเจอข้อแตกต่างระหว่างทั้ง 2 ก็จำเป็นต้องเคลียร์ให้เรียบร้อยก่อนตกลงเริ่มงาน


เงินเดือนและสวัสดิการที่เกี่ยวข้อง

  1. เงินเดือนที่ได้เหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการส่วนตัวหรือสามารถเจรจาได้ไหม

  2. สวัสดิการอื่นๆ มีอะไรบ้าง และข้อไหนตอบโจทย์เรามากที่สุด

  3. สิทธิพิเศษที่อยู่นอกบริษัท เช่น บัตรฟิตเนส คอร์สเรียนฟรี หรืออื่นๆ

  4. พนักงานได้รับการส่งเสริมให้กล้าใช้สิทธิลาป่วยหรือวันหยุดของตัวเองหรือไม่

  5. เรามีข้อกังวลส่วนตัวด้านค่าใช้จ่ายที่ต้องพิจารณาหรือเปล่า

รายละเอียดข้อมูลเหล่านี้ควรมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรให้ครบถ้วนและหากสงสัยว่าเงินเดือนที่ได้รับเหมาะสมกับความเป็นจริงที่ควรจะได้หรือไม่สามารถอ่านวิธีการต่อรองเงินเดือนได้ที่  วิธีต่อรอง Job Offer เพื่ออัปฐานเงินเดือนให้ตรงใจ


การทำงานร่วมกับหัวหน้า

  1. คิดเห็นหรือรู้สึกอย่างไรกับ “ว่าที่หัวหน้า” ซึ่งเราต้องทำงานด้วย

  2. เราจะสามารถพัฒนาตัวเองด้วยการเรียนรู้สิ่งดีๆ จากหัวหน้าคนนี้ได้ไหม

  3. บริษัทจะมีกำลังสนับสนุนเครื่องมือที่จำเป็นต่อการทำงานได้มากแค่ไหน

  4. สไตล์การทำงานของเราและเขาสอดคล้องกันไหม

  5. เราจะต้องทำงานร่วมกับหัวหน้าอย่างใกล้ชิดมากแค่ไหน

  6. หัวหน้ามีแนวทางบริหารทีมด้วยวิธีการอย่างไร

เนื่องจากหัวหน้าคือตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตการทำงานโดยมีผลสำรวจจากเว็บไซต์ Peoplemanagement.co.uk พบว่า 43% ของคนทำงาน “ลาออก” เพราะหัวหน้าแย่ ดังนั้นก่อนตกลงเริ่มงานเราต้องมั่นใจได้ว่าจะสามารถทำงานร่วมกันได้


วิธีการทำงานและวัฒนธรรมองค์กร

  1. ระหว่างสบายใจกับอึดอัด เรารู้สึกแบบไหนกับสภาพแวดล้อมการทำงานในปัจจุบัน

  2. เราจะสามารถมีความ Productive ภายใต้การทำงานที่นี่ได้หรือไม่

  3. ปกติแล้วนโยบายการทำงานเน้นแบบเข้าออฟฟิศ ไฮบริด หรือเน้น WFH เป็นหลัก

  4. หากได้เจอเพื่อนร่วมงานมาบ้างแล้ว เห็นตัวเองเป็นอย่างไรถ้าต้องทำงานร่วมกัน

  5. พนักงานในองค์กรมีความสัมพันธ์กันในระดับไหน เหมาะกับตัวตนของเราไหม

  6. บริษัทมีการยืนหยัดเรื่องการสร้างสมดุล Work life balance ให้กับพนักงานหรือไม่

  7. มั่นใจในสถานะทางการเงินหรือความมั่นคงขององค์กรมากแค่ไหน

  8. ค่านิยมขององค์กรตรงกับความต้องการของเราไหม

  9. เมื่อเข้าไปเป็นพนักงานบริษัทนี้แล้วเราจะ “ภูมิใจ” ได้อย่างเต็มที่หรือเปล่า?

วัฒนธรรมองค์กรคือแนวทางปฏิบัติที่พนักงานยึดถือซึ่งเราจะเป็นฝ่ายที่ต้องปรับเข้าหาและประสบการณ์ของ “คนใน” หรืออดีตพนักงานที่มีความคุ้นเคยอยู่แล้วจะสามารถบอกเราได้ว่าพวกเขามีมุมมองอย่างไรต่อบริษัท

เป้าหมายส่วนตัว

  1. มีความรู้สึกตื่นเต้นเกิดขึ้นเมื่อรู้ว่ากำลังจะได้งานหรือเปล่า

  2. งานนี้ตอบโจทย์ในสิ่งที่เรามองหาจากงานใหม่มากแค่ไหน

  3. ตำแหน่งงานดังกล่าวน่าสนใจและท้าทายความสามารถเราหรือไม่

  4. สาเหตุที่ลาออกจากงานเก่า แล้วจะมีโอกาสเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยไหม

  5. แน่ใจไหมว่าจะได้ใช้ทักษะที่มีอย่างเหมาะสมกับการทำงานตำแหน่งนี้

  6. หากตกลงตอบรับงานจะเป็นการตัดสินใจที่ดีต่อเส้นทางในอนาคตหรือไม่

ไม่มีใครสามารถตอบคำถามในข้อสงสัยเหล่านี้ให้กับเราได้มีเพียงตัวเราเองเท่านั้นที่ต้องคิดอย่างรอบคอบในทุกมิติทั้งเป้าหมายระยะยาวและคุณภาพความเป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งหากเรายังไม่พร้อมที่จะตอบตกลงก็สามารถขอเวลาพิจารณาปัจจัยต่างๆแและสุดท้ายเมื่อเราได้ทำการตัดสินใจไม่ว่ารับหรือไม่รับงานก็ถือเป็นการตัดสินใจที่ไม่น่าเสียดายเพราะเราได้ผ่านการไตร่ตรองมาอย่างดีที่สุดแล้ว

แม้ว่ายุคปัจจุบันการแข่งขันอาจจะสูงจนทำให้งานหายากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเมื่อมีอะไรเข้ามาเราก็ควรคว้าไว้ทั้งหมด เพราะถึงอย่างไรการหางานที่เหมาะสมกับตัวเรามากที่สุดก็คือกุญแจสำคัญที่นำพามาซึ่งความสุขและความสำเร็จไปพร้อมๆ กัน

เปิดโอกาสใหม่ให้ชีวิตการทำงาน ฝากโปรไฟล์ไว้กับเรา Reeracoen Recruitment

อ่านบทความเพิ่มเติม:
7 ข้อสังเกตระหว่างสัมภาษณ์งานที่บอกว่า "เรายังไม่ใช่" คนที่องค์กรต้องการ
กลุ่มทักษะ Interpersonal Skills ที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้เราได้งานมากขึ้น

 

แปลและเรียบเรียงจาก: https://bit.ly/45Sb0p0 
#ReeracoenRecruitment #ReeracoenThailand #Recruitment