ย้ายงานเมื่อไรดี? 7 สัญญาณที่หากคุณกำลังเผชิญ ก็แปลว่าถึงเวลาแล้วที่ควรมองหางานใหม่

How to?May 08, 2023 15:45


"ย้ายงานเมื่อไรดี?" 7 สัญญาณที่หากคุณกำลังเผชิญ
ก็แปลว่าถึงเวลาแล้วที่ควรมองหางานใหม่

 

อะไรที่จะทำให้คุณรู้สึกและตัดสินใจกับตัวเองได้ว่านี่แหละคือ “ฟางเส้นสุดท้าย”
สำหรับการทำงานที่นี่และพร้อมมองหาเส้นทางใหม่ให้ตัวเองทันที
จากประสบการณ์ที่เจอปัญหามาในชีวิตการทำงานที่ผ่านๆ มา
หลายคนอาจพบ ‘สัญญาน’ และตอบได้ทันที แต่ก็เชื่อว่ายังมีบางส่วน
โดยเฉพาะคนที่เพิ่งเข้าสู่ชีวิตการทำงาน ที่อาจยังไม่แน่ใจว่าเมื่อไรควรคิดเรื่องย้ายงาน

ดังนั้นในบทความนี้เราจึงรวบรวม 7 คำถามเช็กลิสต์ ไว้สำรวจตัวเอง
และถ้าหากตรงกับสิ่งที่คุณกำลังเผชิญอยู่ก็แปลว่าเวลาที่คุณควรนึกถึงงานใหม่นั้นได้มาถึงแล้ว


1) รู้สึกไม่ ‘คลิก’ กับงานที่ทำอยู่

ถ้าคุณรู้สึกไม่ค่อยพึงพอใจกับงานปัจจุบัน นี่อาจเป็นสัญญาณที่กำลังบอกให้คุณเริ่มมองหางานถัดไป
หากเราเริ่มรู้สึกเบื่อ ไม่ค่อยเอ็นจอยกับงานที่ทำ ไม่ถูกเติมเต็มหรือได้รับความท้าทายอย่างที่ควรจะเป็น
เราจะกลายเป็นคนที่ขาดแรงจูงใจและเริ่มค่อยๆ ถอยห่างจากการมีส่วนรวมกับสิ่งต่างๆ ในองค์กร
จนหัวหน้าหรือผู้บริหารมองว่าเรากำลังอยู่ในสภาวะ Quiet Quitting (คนที่ไม่ทุ่มเท ทำงานเอาตัวรอดไปวันๆ)
ซึ่งจะกลายเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดีและมีผลต่ออนาคตของเราในที่สุด
คลิกอ่านบทความเรื่อง Quiet Quitting


2) มองไม่เห็น ‘อนาคต’ ที่รออยู่ข้างหน้า

คุณรู้สึก “ติด” มีเรื่องให้อึดอัดใจกับงานที่ทำ แถมยิ่งอยู่ ยิ่งทำ ยิ่งไม่รู้สึกถึงการเติบโต
มีแต่เรื่องเดิมๆ งานซ้ำๆ ในแต่ละวันโดยไม่มีอะไรให้ท้าทายความสามารถอย่างที่ควรจะเป็น
ก็ถือเป็นอะไรที่ “น่าผิดหวัง” มากๆ สำหรับวัยทำงานที่เราควรได้เรียนรู้ พัฒนาตัวเองให้มากที่สุด

นอกจากทักษะที่มีจะไม่ถูกใช้งานอย่างเต็มที่
เรายังต้องเหนื่อยในการมองหาโอกาสให้ตัวเองเพื่อทดแทนสิ่งที่ขาดหายไปด้วย


3) ไม่มีคำว่า Work life balance ในพจนานุกรม

หากงานของคุณ “กินชีวิต” ทั้งเวลาและแรงกายแรงใจ
จนไม่เหลือให้ตัวเองไปทำเรื่องอื่นๆ หรือใช้เวลากับครอบครัว
ถือเป็น Red flag ที่ส่งสัญญาณบอกว่าคุณควรมองหาทางเลือกใหม่ได้แล้ว

หากเราไม่สามารถจัดการความสมดุลระหว่าง ‘ชีวิต’ กับ ‘งาน’สิ่งที่ตามมาก็คือความเครียดสะสม
และส่งผลต่อความสัมพันธ์กับคนรอบตัว ดังนั้นเราควรแบ่งน้ำหนักความสำคัญให้ได้


4) ติดอยู่ในสภาพแวดล้อมการทำงานแบบ Toxic

รูปแบบของสภาพแวดล้อมการทำงานที่ Toxic หมายถึง
ที่ที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด มีวิธีการสื่อสารที่ไม่ดี ขาดความเคารพ สนับสนุนซึ่งกันและกัน
ถูกมองข้าม ไม่เห็นคุณค่า หรือแม้แต่มีการบูลลี่กันในที่ทำงาน

สิ่งเหล่านี้คือตัวร้ายที่คอยทำลายสุขภาพจิตของเราในทุกๆ วัน
หากคุณเป็นหนึ่งคนที่ติดอยู่กับสภาพแวดล้อมหรือวัฒนธรรมแบบนี้
ก็ไม่ควรทนฝืนอยู่ต่อให้บั่นทอนความสุขของตัวเอง


5) พยายามแค่ไหนก็ไม่เคยได้รับการชื่นชม

เคยได้ยินไหมว่า “ทุกสิ่งล้วนมีคุณค่า ถ้าอยู่ในมือของคนที่มองเห็นมัน”

ถ้าคุณเริ่มตระหนักกับตัวเองได้ว่าผลงานของคุณไม่ได้รับการมองเห็นหรือถูกชื่นชมในที่ทำงาน
ก็อาจแปลว่าองค์กรปัจจุบันอาจยังไม่ใช่สำหรับคุณ

ไม่แน่ว่าปัญหานี้อาจเกิดขึ้นจาก “การสื่อสาร” เราอาจลองขอปรึกษากับหัวหน้าถึงประเด็นต่างๆ ที่กำลังกังวล
อธิบายแจกแจงงานที่รับผิดชอบทั้งหมดโดยยกตัวอย่างความสำเร็จหรือสิ่งที่เราภูมิใจ
รวมถึงงานส่วนที่อยู่นอกเหนือจากหน้าที่ทั่วไปเพื่อย้ำเตือนว่าเราสามารถสร้าง “ผลกระทบ” ได้อย่างไรบ้าง
แล้วดูผลลัพธ์ที่ได้ก่อนทำการตัดสินใจอีกครั้ง


6) ไม่สบายใจกับวิธีการทำงาน หรือวัฒนธรรมองค์กร

ถ้าเราเริ่มมีมุมมองที่ไม่เห็นด้วยกับค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กรที่เป็นอยู่
ซึ่งหากเราเป็นเพียง “คนเดียว” ที่คิดแบบนี้ ก็ถือว่าเป็นสถานการณ์ที่ไม่ดีและควรคิดถึงแผนสำรองเผื่อไว้

แต่หากเรา “ไม่ใช่คนเดียว” ที่คิดแบบนี้ เราสามารถพลิกสถานการณ์สร้างความเปลี่ยนแปลงให้ไปในทิศทางใหม่ๆ
ผ่านการทำโปรเจกต์ เสนอความคิดเห็น รวมถึงสร้างแนวร่วมของคนที่มีมุมมองคล้ายๆ กัน
ซึ่งอาจเป็นวิธีพาองค์กรไปสู่ทางเลือกใหม่ได้เช่นกัน


วิธีนี้จะช่วยให้เรารู้สึกว่าบรรยากาศต่างๆ ดูดีขึ้น
แต่หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงก็ถือเป็นการยืนยันว่าที่คิดจะหนีไปนั้น “ถูกแล้ว”


7) หมดความเชื่อใจในหัวหน้าและทีมบริหาร

เมื่อคุณไม่เชื่อใจหรือให้ความเคารพการตัดสินใจโดยทีมผู้บริหาร
หรือเกิดความเคลือบแคลงใจว่ามีบางอย่างที่ “ไม่โปร่งใส” เกิดขึ้น
ก็เป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญที่อาจกำลังบอกให้คุณควรมองหางานใหม่
ที่สามารถมั่นใจในการทำหน้าที่ผู้นำในองค์กรได้มากกว่านี้

การจะหาทางออกได้ อันดับแรกต้องหาสาเหตุว่าเพราะอะไรที่ทำให้เรามีความคิดดังกล่าว
เกิดจากการกระทำที่ทำให้เราหมดความเชื่อมั่น หรือเป็นที่ความรู้สึกของตัวเราเองล้วนๆ

ซึ่งเราควรพูดคุยกับหัวหน้า HR หรือเพื่อนร่วมงานที่ไว้ใจปรึกษาในเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้น
หาทางออกที่ดีที่สุดเพื่อประกอบการตัดสินใจ ก่อนที่จะคิดย้ายงานด้วย


กล่าวโดยสรุป

เช็กลิสต์ทั้ง 7 ข้อที่เราได้นำมาฝากกันเป็นข้อสังเกตเบื้องต้นหากคุณกำลังเผชิญกับปัญหาเหล่านี้
อันดับแรกคือพูดคุยอย่างตรงไปตรงมากับผู้ที่มีอำนาจหรือใครที่สามารถให้ความช่วยเหลือกับเราได้

เพราะทุกครั้งที่ย้ายงานคือจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต สุดท้ายแล้วคงไม่มีงานไหน หรือที่องค์กรใดที่สมบูรณ์แบบ
มีแต่การเลือกหาสิ่งที่ “เหมาะสม” กับเรามากที่สุดเท่านั้น เมื่ออยู่ในที่ที่ใช่ เราก็จะเติบโตไปได้อย่างที่ควรจะเป็น

ฝากโปรไฟล์ไว้กับเรา Reeracoen Recruitment


อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่:
5 คำถามที่ผู้สมัคร "ห้ามลืม" ตอนสัมภาษณ์ ถ้าไม่อยากพบกับความผิดหวังหลังเริ่มงาน
ChatGPT ขึ้นแท่นทักษะยุคใหม่ ที่คนทำงานต้องมีและองค์กรก็ต้องการ

 


แปลและเรียบเรียงจาก:  https://bit.ly/3NKbirF 

#ReeracoenRecruitment
#ReeracoenThailand #Recruitment
#Career #SelfImprovement