สรุป 5 เทรนด์ “โลกการทำงาน” ในปี 2023

General TopicDecember 16, 2022 17:27

สรุป 5 เทรนด์ “โลกการทำงาน” ในปี 2023

ปี 2022 นี้เราได้เห็นความเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นกับชีวิตการทำงานบ้าง?
อันดับแรกคงหนีไม่พ้นวิถีการทำงานแบบ Hybrid การลาออกครั้งใหญ่หลังจากการระบาดของ Covid-19 ภาวะเงินเฟ้อที่ส่งผลให้ทุกอย่างมีราคาแพงขึ้น ซึ่งตามมาด้วยการปลดพนักงานจำนวนมากในหลายบริษัท จากสถานการณ์เหล่านี้คงทำให้หลายคนอยากรู้ว่าในปี 2023 ที่จะมาถึงนี้จะมีอะไรเกิดขึ้นอีกและเราต้องเตรียมตัวรับมืออย่างไร

วันนี้ Reeracoen Thailand ได้สรุป 5 เทรนด์วิเคราะห์โลกการทำงานในปี 2023 จากบทความบนเว็บไซนต์ Forbes.com มาฝากกันครับ

1) “พนักงานหัวกะทิ” จะเป็นฝ่ายถือไพ่เหนือกว่าองค์กร

จากรายงานของ Glassdoor และ Indeed พบว่าในปี 2023 เราจะยังคงอยู่ในสถานการณ์ที่ “พนักงานหัวกะทิ” จะถือไพ่เหนือกว่า เนื่องจากมีจำนวนน้อยและเป็นที่ต้องการสูงซึ่งหมายความว่า “พนักงานหัวกะทิ” เหล่านี้จะมีสิทธิต่อรองและเป็นฝ่ายเลือกองค์กรที่ตอบโจทย์ในด้านต่างๆ ทั้งเงินเดือน สวัสดิการ ความยืดหยุ่น รวมถึงสามารถมอบโอกาสเติบโตให้พวกเขาได้มากที่สุด

2) การทำงานแบบยืดหยุ่นไม่ใช่ “ทางเลือก” แต่เป็นเรื่องพื้นฐาน

ตั้งแต่เริ่มมีการใช้วิถีการทำงานแบบ Remote หรือ Hybrid Working ซึ่งช่วยให้คนทำงานมีอิสระมากขึ้นรวมถึงจัดการตัวเองได้ง่ายขึ้น ทำให้หลายคนมองว่าการทำงานแบบยืดหยุ่นสามารถตอบโจทย์ได้มากกว่า เพราะยังทำผลงานได้ดีแถมยังบริหารจัดการสิ่งต่างๆ ได้ในแบบของตัวเอง

3) องค์กรจะเริ่ม “สอดส่อง” การทำงานมากขึ้น

เมื่อการทำงานแบบยืดหยุ่นเป็นวิถีการทำงานแบบใหม่ ซึ่งยืดหยุ่นมากขึ้นเรื่อยๆ โดยแลกกับการเข้าออฟฟิศน้อยลง ทำให้องค์กรเริ่มที่จะพยายามติดตามสถานะการทำงานด้วยโปรแกรมต่างๆ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสำหรับตรวจเช็กพฤติกรรมพนักงานขณะที่ไม่ได้เข้าออฟฟิศและพัฒนาระบบสนับสนุนการทำงานต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้น

4) ต้องคอยเฝ้าระวัง “สุขภาพจิต”

โดยปกติคนทำงานเกิดความเครียดได้ง่ายอยู่แล้ว แต่มันกลับยิ่งมีแนวโน้มสูงขึ้นกับปัจจุบันที่มีสิ่งแวดล้อมยิ่งบีบคั้นจากภาวะเงินเฟ้อ โรคระบาด เศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ “ใจ” เราอาจเปราะบางขึ้น

ผลสำรวจจาก Gympass แพลตฟอร์มเกี่ยวกับความเป็นอยู่ที่ดีของคนทำงานพบว่า 48% ของกลุ่มสำรวจมีแนวโน้มสุขภาพจิตแย่ลงในปี 2022 ในขณะที่ความต้องการดูแลด้านสุขภาพจิตก็มีตัวเลขเพิ่มขึ้นด้วย

5) ฐานเงินเดือนโปร่งใส

จากการบังคับใช้กฎหมายเงินเดือนโปร่งใสในสหรัฐอเมริกาฯ ที่นายจ้างต้องระบุ “ฐานเงินเดือน” แบบกำหนดตัวเลขอย่างชัดเจนเพื่อแก้ปัญหาโครงสร้างเงินเดือนที่ไม่ยุติธรรม ซึ่งผลการศึกษาพบว่าการเปิดเผยฐานเงินเดือนอย่างโปร่งใสส่งผลดีต่อคนทำงานทั้งด้านความ Productive และสุขภาพจิตที่ดีขึ้น รวมถึงลดความยุ่งยากเรื่องการต่อรองเงินเดือน ทำให้การจ้างงานเกิดขึ้นง่ายกว่าเดิม จึงมีแนวโน้มว่าอาจเป็นโมเดลที่น่าสนใจและอาจแพร่หลายมากขึ้นในอนาคต

ฝากโปรไฟล์ไว้กับเรา Reeracoen Recruitment

แปลและเรียบเรียงจาก:
https://bit.ly/3HGVQK0

#ReeracoenRecruitment
#ReeracoenThailand #Recruitment
#มนุษย์เงินเดือน #วัยทำงาน #2023